เว็บไซต์ยุคนี้มันต้องมีการทำ SEO ด้วย

จริงๆแล้วเรื่อง SEO มันไม่มีอะไรเลยครับ ไม่ใช่เรื่องที่ต้องมานั่งเครียดว่าทำยังไงให้ได้อันดับดีๆ ทำยังไงได้ขึ้นหน้าหนึ่ง เพราะถ้าเราทำเว็บไซต์ที่มีคุณภาพแล้ว ปัญหาเหล่านี้จะกลายเป็นปัญหาของ Google แทน ว่าจะทำยังไงที่จะรักษาเว็บไซต์ของเราให้อยู่อันดับต้นๆ ความจริงข้อนี้ หัวหน้าทีมวิศวะกรของ Google คอนเฟิร์มเองตั้งนานแล้ว

แล้วเว็บไซต์คุณภาพคืออะไรล่ะ คำถามนี้ไม่น่าจะเสียเวลาอธิบายเลยนะครับ แค่เราเข้าไปหน้าเว็บเพจซักหน้าหนึ่งก็จะรู้เองว่าข้อมูลในหน้านั้นๆมันมีคุณค่าน่าเก็บรึปล่าว มันสมองของ Google เองก็คิดใกล้เคียงกับเราครับ นอกจากพื้นฐานตรงนี้แล้วก็จะมีรายละเอียดทางเทคนิคอีกหลายอย่างที่เราอาจจะไม่ได้สังเกตุ แต่เวลามีการเข้ามาเก็บข้อมูลของ Google พวกเขาจะเก็บสิ่งเหล่านี้ไปพิจารณาให้ความสำคัญด้วยครับ ผมขอยกตัวอย่างสิ่งง่ายๆที่จำเป็นต้องมี(แต่เว็บนี้ยังไม่มี 555) สำหรับหน้าเว็บเพจคุณภาพซักหนึ่งหน้า ดังนี้ครับ

1. URL สิ่งที่ปรากฏบน Address bar เวลาเราดูหน้าเว็บเพจนั้นๆ มีคำสำคัญ(keyword)อยู่บนนั้นหหรือไม่
ไม่ต้องแปลกใจที่ทุกวันนี้จะเห็นเว็บเพจของหลายๆเว็บไซต์มี URL ที่ยาวเฟื้อย บางเว็บไซต์เป็นภาษาไทยอีกต่างหาก เรียกได้ว่ามนุษย์ไม่มีทางจำ URL นี้ได้แน่ๆ นั่นแหละครับ เว็บนั้นกำลังอัดคำสำคัญใส่ใน URL อยู่ เขาสนใจมนุษย์อย่างเดียวซะที่ใหน

2. Title ของหน้าเว็บเพจ มีคำสำคัญปรากฏอยู่ด้วยหรือไม่
จริงๆแล้วข้อนี้เป็นพื้นฐานที่ควรจะเป็นมาตั้งแต่เริ่มมีเอกสาร HTML เกิดขึ้นบนโลกแล้วนะครับ แต่เรามักจะมองข้าม โดยใช้ title ที่ซ้ำๆกันทุกเพจของเว็บ ซึ่งผิดวัตถุประสงค์ของ title ที่ชื่อก็บอกแล้วว่า title คือ หน้านี้ชื่อหน้าอะไร

3. Description ของหน้าเพจนั้น มีคำสำคัญปรากฏอยู่ด้วยหรือไม่
เป็นส่วนที่เรามองไม่เห็น แต่การเก็บข้อมูลจะมีการเก็บข้อมูลไปพิจารณาและแสดงผลในการค้นหา ดังนั้นชื่อมันก็บอกว่าเป้นคำอธิบายหน้านั้นๆ มันจึงไม่ควรที่จะมี description ซ้ำๆกัน เพราะหน้าข้อมูลของเราไม่ได้มีเนื้อหาซ้ำๆกันซักหน่อย

4. หัวข้อเรื่อง มีคำสำคัญปรากฏอยู่ในนั้นหรือไม่
อันนี้ก็เป็นสิ่งที่ควรจะต้องทำอยู่แล้วครับ แม้จะตัดเรื่อง SEO ออกไปก็ยังต้องควรทำ เพราะในหน้าข้อมูลเราต้องมีหัวข้อใหญ่ของหน้านั้น (ในทาง HTML เราจะใช้ <H1> <H2>...ไล่ความสำคัญลงไปเรื่อยๆ) คือ ลำดับ Heading นั่นก็คือลำดับความสำคัญของหัวข้อนั่นเอง อ้อ...ในทาง SEO แล้วการกำหนดขนาดฟอนท์ด้วยวิธีอื่นใหญ่เท่าบ้านก็ไม่มีความหมายนะครับ เราต้องลำดับและกำหนดขนาดด้วยวิธีใช้ heading นี้เท่านั้น

5. มีคำสำคัญปรากฏอยู่ในเนื้อหาของหน้านั้นหรือไม่
ข้อนี้ก็เป็นเรื่องธรรมชาติอีกเหมือนกัน ว่า หน้าเนื้อหานั้นเป็นเรื่องของอะไรแล้ว มันย่อมจะมีคำนั้นปรากฏอยู่บ้างแต่ไม่มากเกินไปจนเป้นการจงใจใส่คำซ้ำ (spam keyword) กี่คำดีล่ะ? ไม่ต้องไปซีเรียสครับ แค่ทำข้อมูลตามความเป็นจริงแค่นั้นเอง ก็จะมีคำสำคัญนี้ปรากฏอยู่แล้ว

6. มีการเน้นความสำคัญของคำสำคัญในข้อมูลหน้านั้นๆหรือไม่
แน่นอนครับ คำใหนที่เราต้องการเน้น เรามักจะทำเป็นตัวหน้า (ในโค้ด HTML จะใช้ <strong> ครอบคำนั้นไว้) ต้องทำเป็นนิสัยครับ ไม่ใช่เรื่องเครียด ต้องมาซีเรียสเหมือนกัน

7. มีจุดเชื่อมโยงด้วยคำสำคัญหรือไม่
นอกจากการเน้นคำด้วยตัวหน้าแล้ว การเชื่อมโยง(ลิงก์) ด้วยข้อความที่มีคำสำคัญในเว็บไซต์ของเราเอง ก็เป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าเราเชื่อมโยงไปหน้าใด ด้วยคำใด มีความสำคัญมากน้อยเพียงใดได้เช่นกัน ดังนั้นคำหรือข้อความที่ควรเชื่อมโยงเพื่อไปอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในอีกหน้าหนึ่ง เราก็ไม่ควรจะละเลยครับ

แค่พื้นฐานนี่ก็อ่านแทบมึนเลย เหมือนที่ผมเกริ่นไว้ตั้งแต่ตอนแรกเลยมั้ยครับว่าอาจจะต้องอธิบายกันเป็นวันๆเลย จริงๆมันยังมีเทคนิคอีกเยอะแยะมากมายตามเงื่อนไขที่ Search Engine นำมาพิจารณาเป็นพันๆเงื่อนไข แต่ที่ยกตัวอย่างมานี้แค่เป็นอะไรที่เราต้องทำ แม้จะไม่สนใจเรื่อง SEO ก็ตาม เพราะนอกจากเราเปิดดูผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์แล้ว มันก็คือมาตรฐานที่จะมีการนำไปใช้ และมีประโยชน์ในการใช้ข้อมูลด้านอื่นๆอีกมากมาย แต่เรามักจะละเลยกันจนน่าเสียดายครับ